Local SEO คือการนำเอาธุรกิจของคุณไปติดใน google business places เวลาที่ยูสเซอร์พิมพ์คำสั่งค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับสถานที่ (Local) หรือใช้ตำแหน่งจาก GPS ใกล้เคียงกับที่ตั้งของธุรกิจเรา google ก็จะแสดงผลการค้นหาแยกต่างหากออกมาบริเวณส่วนบนของหน้า SERP โดยการทำงาน Local SEO นั้น Google จะใช้อัลกอริทึม Hummingbird เพื่อที่จะเข้าใจคำค้นหาตำแหน่งที่ยูสเซอร์ต้องการ โดย Local SEO มีเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและจะคาดการณ์กันว่าเพิ่มความสำคัญมากขึ้น 2-3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดีสำหรับปี 2016 เราควรต้องหันมาใส่ใจ Local SEO หรือไม่

1.ประโยชน์ของ Local SEO

ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า Local SEO สามารถช่วยธุรกิจได้อย่างไร Local SEO มีการแข่งขันที่ต่ำ เพราะว่าจำนวนคู่แข่งของคุณจะลดน้อยลงตามสถานที่ที่ผู้ชมค้นหา และคุณก็สามรถใช้เวลาไม่นานนักในการทำให้เพจติดหน้าแรกโอกาสที่จะยูสเซอร์จะพบก็มีมากขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิง 5 อันดับแรก เพราะว่า 3 อันดับผลการค้นหาผ่าน Local จะแสดงอยู่เหนือสุดของหน้า SERP นั่นเอง ขณะเดียวกันผู้บริโภคที่พบเห็นคุณก็จะมีที่พักอาศัยหรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์คุณแล้ว ลูกค้าที่ค้นหาข้อมูลส่วนมากมีจุดประสงค์เพื่อซื้อสินค้ามากกว่าหาข้อมูลทั่วไป

2.แล้ว Local SEO กำลังเปลี่ยนไปอย่างไร

การค้นหา Local กำลังเริ่มสามารถค้นหาได้ละเอียดมากขึ้น จากสมัยก่อนที่โฟกัสได้แค่เพียงเมืองหรือภูมิภาค แต่ปัจจุบันจะสามารถเจาะลึกลงไปยังระแวกใกล้เคียงหรือสถานที่ใกล้ๆ กับยูสเซอร์ได้ ซึ่งหมายความว่าการแข่งขันจะลดลง และเป็นเฉพาะทางมากขึ้น นอกจากนี้ในปี 2016 เชื่อว่าการค้นหาแบบ Local จะทวีความสำคัญเพิ่มขึ้น เพราะจากสถิติพบว่าผู้บริโภคเริ่มมีการค้นหา Local มากขึ้น ขณะเดียวกันแต่ละคนก็ใช้งานผ่านมือถือมากขึ้นนั่นเอง

3.ธุรกิจควรทำอย่างไร

สิ่งแรกที่ควรทำคือควรใส่ข้อมูล ชื่อร้าน ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ให้มีความถูกต้องและตำแหน่งที่ตั้งเป็นปัจจุบันมากที่สุด ขณะเดียวกันใช้เว็บ third-party จำพวก Yelp หรือ TripAdvisor ช่วยรีวิวเท่าที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ใส่คีย์เวิร์ด Local ลงไปในส่วน titles และ descriptions รวมถึงในคอนเทนต์ของคุณด้วย ลองหันมาทำ Local SEO เพื่อรองรับเทรนด์ปี 2016 กันดูนะครับ